เด็กป.3ถามแม่ "ปากหนูเหม็นไหมคะ?" เป็นเหตุให้รู้ความจริงว่าโดนครูประจำชั้นทำอนาจาร!!

(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหา)
เมื่อเร็วๆนี้เกิดเหตุการณ์น่าตกใจ เมื่อคุณครูผู้ชายวัย 54 ปีอยู่ตามลำพังกับนักเรียนหญิงในห้องเรียน จู่ๆคุณครูก็เดินเข้าไปจูบปากของนักเรียนหญิงนาน 3 วินาที จนกระทั่งกลับบ้านจึงถามแม่ว่า "ปากหนูเหม็นหรือเปล่าคะ?" จนรู้ความจริงจากปากลูกสาว

สำนักข่าวต่างสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คุณครูฟ่านที่เรียนจบสูง ได้เข้าบรรจุเป็นครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตจงเหอ นิวไทเปซิตี้ ไต้หวัน ได้รับตำแหน่งเป็นครูประจำชั้นของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แต่ได้ก่อเหตุอนาจารเด็กนักเรียนหญิงเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017



โดยในวันก่อเหตุครูฟ่านได้ฉวยโอกาสช่วงหมดเวลาคาบเรียนที่ 3 เมื่อนักเรียนออกจากห้องเรียนไปหมด เหลือเพียงนักเรียนหญิงอายุ 10 ปีคนดังกล่าวกำลังหยิบของที่ตู้เก็บของอยู่นั้น จู่ๆครูฟ่านก็เดินมาจากทางด้านหลัง จับไหล่เด็กเพื่อให้หันหน้ามาหาครู จากนั้นครูฟ่านก็ก้มหน้าเอาปากมาจูบปากของนักเรียนหญิงคนนั้น นานประมาณ 3 วินาที



แหล่งข่าวกล่าวว่า นักเรียนหญิงที่ถูกทำอนาจารไม่เข้าใจถึงพฤติกรรมที่ครูได้ทำกับตนเอง ก็ตกใจ อึ้งไปชั่วขณะแต่ไม่ได้ขัดขืนอะไร จนกระทั่งเลิกเรียนกลับบ้าน จึงถามแม่อย่างไร้เดียงสาว่า "ปากหนูเหม็นหรือเปล่าคะ?" พร้อมกับเล่าให้แม่ฟังว่า"วันนี้ครูฟ่านได้มาจูบปากหนูด้วย ทำให้ปากหนูมีกลิ่นแปลก ๆ" ทันทีที่แม่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก และคิดว่านี้คือเรื่องใหญ่มาก จึงเรียกสามีแล้วรีบเดินทางไปแจ้งความและแจ้งทางโรงเรียนให้ทราบ



แต่ครูฟ่านกลับปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอนาจารดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่เคยคิดล่วงละเมิดเด็กเลย และอ้างว่าในวันที่เกิดเหตุยังมีนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่งอยู่ในห้องด้วย ตนเพียงแค่ไล่ให้นักเรียนทั้งสองรีบไปเรียนก็เท่านั้นเอง
ศาลพิจารณานักเรียนหญิงให้การอย่างหนักแน่น และยืนยันว่าครูฟ่านได้จูบปากเธอจริงโดยที่ให้การเหมือนกันตลอดในชั้นศาล ทำให้ศาลคิดว่าคำพูดของนักเรียนมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ บวกกับเพื่อนนักเรียนอีกคนหนึ่งบอกว่า เคยได้ยินนักเรียนที่ถูกทำอนาจารเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในวันนั้นนักเรียนที่ถูกทำอนาจารเข้าห้องเรียนเป็นคนสุดท้ายจริง ทำให้ศาลคิดว่าพยานและคำพูดของนักเรียนขัดแย้งกับคำให้การของครูมาก จึงสงสัยในตัวครู



ศาลพิจารณาตัดสินว่า เนื่องจากครูฟ่านมีการศึกษาที่สูง ควรจะเป็นแบบอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด หลอกใช้ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ จากนั้นล่อเด็กไปทำอนาจาร ทำร้ายสภาพจิตใจของเด็ก แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะสำนึกกลับใจ ไม่มีการขอโทษหรือต้องการปรองดองแต่อย่างใด พูดจาปลิ้นปล้อนเพื่อให้ตนเองพ้นผิดตลอดเวลา

จนในที่สุดศาลมีคำสั่งให้คุณครูรายนี้มีโทษจำคุก 1 ปี สามารถยื่นอุทธรณ์ได้

แปลและเรียบเรียงโดย โลกของโฮ่ง